top of page

พระวิหารกลางเมืองสุโขทัย

April 24, 2017

"กลางเมืองสุโขทัยนี้มีวิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารศมีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันรามมีวิหารใหญ่ มีวิหารอันราม" ข้อความจากหลักศิลาจารึกสุโขทัย คงจะหมายถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุโขทัย ที่เชื่อว่าเดิมเป็นที่ประดิษฐานพระศรีศากยมุนีองค์นี้ค่ะ แต่เดิมมิได้มีพระนามว่า "พระศรีศากยมุนี" ดังเช่นปัจจุบันค่ะ คุณผู้ฟังที่ติดตาม "เล่าขานตำนานวีรชน" ของเราคงจะจดจำและรำลึกภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อได้แลเห็นพระพุทธรูปที่สวยงามองค์นี้นะคะตามความเดิมจากหนังสือความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวีว่า "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระบรมราชโองการสำหรับให้สร้างวัดขึ้นกลางพระนคร ให้สูงเท่าวัดพนัญเชิง ให้พระพิเรนทรเทพขึ้นไปรับพระใหญ่ ณ เมืองสุโขทัย ชะลอเลื่อนลงมากรุง ประทับท่าสมโภช ๗ วัน ณ เดือน ๖ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ยกลงเลื่อนชักตามทางชลมารค พระโองการตรัสให้แต่งเครื่อง นมัสการพระพุทธ หน้าวังหน้าบ้านตลอดจนถึงที่ ทรงพระประชวรอยู่แล้วแต่ทรงพระอุตสาหะเพิ่มพระบารมีหวังที่จะหน่วงพระโพธิญาณ จะโปรดสัตว์ทำนุบำรุงพระศาสนา เสด็จพระราชดำเนินตามขบวนแห่พระจนถึงพลับพลา ยกพระขึ้นที่แล้วเสด็จกลับ"แต่ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจะเสด็จกลับนะคะ เมื่อประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็ทรงน้อมพระวรกายลงกราบ แล้วก็ทรงเปล่งพระดำรัสสั้นๆ ว่า "สิ้นธุระแล้ว" ก็เสด็จกลับ หลังจากนั้นเพียง ๒ ปี พระองค์ก็เสด็จสวรรคตลงค่ะซึ่งสถานที่แห่งนั้น ก็คือพระวิหาร วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหารในปัจจุบันนั่นเองค่ะต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๔ ทรงผูกพระนามพระประธานในพระวิหารของวัดสุทัศน์ฯ ให้คล้องจองกับพระประธานในพระอุโบสถและศาลาการเปรียญว่า พระศรีศากยมุนี พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และ พระพุทธเสรฏฐมุนี ค่ะพระใหญ่ที่อันเชิญมาแต่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุโขทัย ครั้งนั้น จึงมีพระนามใหม่ว่า "พระศรีศากยมุนี" นับแต่นั้นเป็นต้นมาค่ะ

Please reload

bottom of page